ศึกคนกันเอง “อุ๊งอิ๊ง” ชักธงรบ พรรคเพื่อไทย ปกป้องอุดรธานี เมืองหลวงคนเสื้อแดง หวาดหวั่นหน่วยจรยุทธ “สุดารัตน์” เจาะ 2 เขต พื้นที่ ส.ส.อาวุโส เสี่ยงสอบตก
“อุ๊งอิ๊ง” ไม่ประมาท ทั้งอุดรธานี-หนองบัวลำภู เจอกระแสพรรคสีแดงทิ้งคนเก่า หลั่งน้ำตา ลาทักษิณ หันไปพึ่ง “สุดารัตน์”
วันอาทิตย์ที่ 15 เดือนมกราคม2566 อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร จะยกทัพครอบครัวเพื่อไทย ไปเยือน จังหวัดอุดรธานี เปิดเวทีปราศรัย ที่ทุ่งศรีเมือง นำโดย ส.ส.ตัวเอกดาวดัง ของพรรคเพื่อไทย และเป็นครั้งแรกที่ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ขึ้นเวทีกลางแจ้ง
ทำไม พรรคเพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในเมืองหลวงคนเสื้อแดง ถ้าเกิดพิจารณาจากคิวเดินสายของ อุ๊งอิ๊ง ในอุดรธานี ก็พอจะได้คำตอบ
เช้าวันอาทิตย์ หลังนั่งเครื่องบินถึงอุดรธานี อุ๊งอิ๊ง และทีมเพื่อไทย ก็เดินทางไปที่ อำเภอเพ็ญ และ อ.บ้านดุง เนื่องจากว่าเป็น 2 เขตที่สุ่มเสี่ยง ปราชัยพรรคไทยสร้างไทย
ปีที่แล้ว คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ยกทีมมาเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ทั้งสองเขต ปรากฏว่า มีกระแสตอบรับดีมาก และข่าวแบรนด์คุณหญิงหน่อยขายได้ สะเทือนถึงดูไบ
บวกกับสถานการณ์ ล่าสุด วิชัย สามิตร อดีต ส.ส.หนองบัวลำภู พาหลานชาย ณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี ส.ส.หนองบัวลำภู หลั่งน้ำตาอำลาเพื่อไทย เพราะพรรคไม่ส่งลงสมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมัยหน้า
วิชัย สามิตร โยนระเบิดว่า พรรคเลือกนายทุน ไม่เอาคนเก่าที่อยู่กับพรรคมา 20 กว่าปี และต่อมา ทางพรรคเพื่อไทยชี้แจ้งว่า เหตุที่พรรคไม่ส่งณัฐวุฒิ ลงสมัคร ส.ส. ด้วยเหตุว่าแฟนสาวของณัฐวุฒิ เป็นรองโฆษก พรรคไทยสร้างไทย
ทั้งอุดรธานี และหนองบัวลำภู ต่างก็มีปมมาจากการขัดกัน ระหว่างเพื่อไทย กับ ไทยสร้างไทย
“อุ๊งอิ๊ง” ชิงเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ อุดรธานี เพราะเหตุว่าไม่ประมาทคนกันเอง และไม่ละเลยแบรนด์ “สุดารัตน์”
ปัจจุบัน ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย เหลืออยู่ 7 คน ประกอบด้วย ศราวุธ เพชรพนมพร ส.ส.อุดรธานี 4 สมัย ลูกเขย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ,อนันต์ ศรีพันธุ์ ส.ส.อุดรธานี 3 สมัย ,ขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี 6 สมัย ,อาภรณ์ สาราคำ ภรรยาขาใหญ่เสื้อแดง-ขวัญชัย ไพรพนา ,จุฑาพัตธน์ เมนะสวัสดิ์ ภรรยาเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ อดีต ส.ส.อุดรธานี ,เกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม ส.ส.อุดรธานี 3 สมัย และเทียบจุทา ขาวขำ ส.ส.อุดรธานี 3 สมัย ภรรยาวิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี
ส่วน จักรพรรดิ ไชยสาส์น ได้ลาออกจาก ส.ส. และพรรคเพื่อไทย ไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย แต่เพื่อไทยไม่ได้ตื่นตระหนกเขตนี้มากนัก
สมัยหน้า สนามเลือกตั้ง อุดรธานี มี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพิ่มจาก 8 คน เป็น 9 คน ทางพรรคเพื่อไทย ได้ตระเตรียมไว้แล้ว โดยเขตใหม่ จะส่งเสี่ยก้อ-วัชระพล ขาวขำ รองนายกเทศมนตรี นครอุดรธานี ลูก ชายวิเชียร-เทียบจุฑา ขาวขำ ลงสนามเป็นสมัยแรก
ส่วน สจ. เบิร์ด กรวีร์ สาราคำ ลูกชายขวัญชัย ไพรพนา จะสมัคร ส.ส.แทน มารดา อาภรณ์ สาราคำ ส.ส.อุดรธานี เขต 4
กรณี จักรพรรดิ ไชยสาส์น ลูกชายอีดี้จวบ-ประจวบ ไชยสาส์น เพื่อไทยจะส่งอีโต้อีสาน ธีระชัย แสนแก้ว อดีต รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรฯ ลงสมัครแทน ที่เขต อ.กุมภวาปี
พื้นสุ่มเสี่ยงของเพื่อไทยคือ อ.บ้านดุง และ อ.เพ็ญ “อุ๊งอิ๊ง” จึงยกทีมไปยืนยัน ความเป็นลูกสาว ทักษิณ ชินวัตร แบรนด์ของแท้ ส่วนแบรนด์ “สุดารัตน์” ไม่ใช่พวกเดียวกัน
ปีที่แล้ว คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ยกทัพใหญ่ พรรคไทยสร้างไทย มาเปิดตัวผู้สมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอุดรธานี 2 เขตเป็นอำเภอบ้านดุง และ อำเภอเพ็ญ
สำหรับ อำเภอบ้านดุง พรรคไทยสร้างไทย ส่ง โชคเสมอ คำมุงคุณ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบ้านดุง และ อำเภอเพ็ญ ก็ส่ง หรั่ง ธุระพล นายก อบต.เซียงหวาง ลงสนาม
ทั้งโชคเสมอ และหรั่ง เป็นนักการเมืองท้องถิ่นดาวฤกษ์ หรือบ้านใหญ่ เคยสมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสีเสื้อภูมิใจไทย มาตั้งแต่ปี 2554 และปี 2562 ถึงจะแพ้เพื่อไทย แต่ก็ได้คะแนนหลักหมื่น
เมื่อโชคเสมอและหรั่ง ย้ายมาใส่เสื้อพรรคของคุณหญิงสุดารัตน์ ชาวบ้านพูดเป็นเสียงกันกันว่า มาถูกทางแล้ว เพราะว่าแบรนด์คุณหญิงหน่อย ยังได้รับความนิยม ต่างแบรนด์เนวิน ที่ประชาชนปฏิเสธ
ขณะที่ อนันต์ ศรีพันธุ์ (อ.เพ็ญ) และขจิตร ชัยนิคม (อำเภอบ้านดุง) เป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายสมัย แต่ราษฎรเริ่มเบื่อ เนื่องจากว่าทั้งคู่ไม่ขยันลงพื้นที่ และมีโอกาสจะแพ้แก่คู่ต่อสู้เก่า
‘อุ๊งอิ๊ง’ นำทัพ พรรคเพื่อไทย บุกถิ่นอุดรฯ15ม.ค.โหมโรงรอคอยลงคะแนนเสียงหวังแลนด์สไลด์
นายณัฐวุฒิ กล่าว การจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย : อีสานยามได๋ เพื่อไทยท่อนั่น ที่ จ.อุดรธานี เพื่อเป็นการยืนยันว่าในปี 66 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง เป็นปีแห่งการทวงคืนอนาคตจากรัฐบาลสืบทอดอำนาจเผด็จการ ที่ไร้ความสามารถและอยู่ในอำนาจมา 8 ปี ทั้งนี้แม้หลายฝ่ายจะมองว่า จ.อุดรธานี เป็นเมืองหลวงทางการเมืองของพรรค พท. ในภาคอีสาน เพราะชนะเลือกตั้งยกจังหวัดหลายสมัย แต่พรรค พท. ไม่รู้สึกว่าพื้นที่ใดหรือจังหวัดใดสำคัญมากหรือน้อยกว่า ทุกจังหวัดมีความสำคัญสำหรับการทำงานทางการเมืองของพรรคเท่าเทียมกัน
หลังการจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยที่อุดรธานี แล้วจะมีการจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยไปยังภูมิภาคต่างๆได้แก่ ภาคกลาง อีสานใต้ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ จนกว่าจะมีการยุบสภา เมื่อมีการยุบสภาแล้ว พรรค พท.จะจัดเวทีปราศรัยในพื้นที่กรุงเทพฯเพื่อประกาศคิกออฟแนวนโยบายชุดใหญ่ เป็นนโยบายในโค้งสุดท้ายเพื่อเข้าสู่สนามลงคะแนนเสียง วัตถุประสงค์ของพรรค พท. คือการมุ่งเป้าที่การชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ เพื่อเอาชนะกติกาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงกลาโหม วางเอาไว้ให้ได้